วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พันธุกรรม

สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดล้วนก็มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง และสามารถถ่ายทอดเหล่านั้นไปยังลูกหลานได้ เรียกว่า ลักษณะทางพันธุกรรม (genetic character) ซึ่งจะมี ความแปรผันทางพันธุกรรม (genetic variation) เกิดขึ้น จึงก่อให้เกิดความหลากหลายทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้น

การศึกษาลักษณะทางพันธุกรรมสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

1. ลักษณะพันธุกรรมที่มีความแปรผันต่อเนื่อง (continuous variation) เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยีนหลายคู่ (polygenes) โดยมีอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งลักษณะที่แสดงออกมาจะมีความแตกต่างกันทีละน้อยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถแยกออกเป็นกลุ่มได้อย่างชัดเจน เช่น สีผิว ส่วนสูง น้ำหนัก เป็นต้น

2. ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีความแปรผันไม่ต่อเนื่อง (discontinuous variation) เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยไม่มีอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นกลุ่มได้อย่างชัดเจน เช่น หมู่เลือด ABO การห่อลิ้นได้ ลักยิ้ม มีติ่งหู

เกี่ยวกับเมนเดล

เกรเกอร์ โยฮันน์ เมนเดล (Gregor Johann Mendel) ได้รับการยกย่องให้เป็น บิดาแห่งพันธุศาสตร์ เกิดเมื่อ ค.ศ.1822 ที่เมืองไฮเซนดอร์ฟ (Heinzendorf) ในครอบครัวการเกษตร เป็นนักบวชในคริสตจักร นิกายออกัสติน (Augustinian monastery) สนใจศึกษาทางด้านการผสมพันธุ์พืชโดยใช้หลักคณิตศาสตร์และสถิติมาวิเคราะห์เพื่อหาข้อสรุป โดยอิทธิพลของศาสตราจารย์สองท่านคือ คริสเตียน โดปป์เลอร์ (Christian Doppler) นักฟิสิกส์ และ ฟรานซ์ อูเงอ (Franz Unger) นักพฤกษศาสตร์

การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล

ถั่วลันเตา (Pisum sativum) เป็นพืชที่เมนเดลได้เลือกมาศึกษา ด้วยเหตุผลหลายประการคือ

· เป็นพืชที่หาง่ายสะดวกในการเพาะปลูก

· เป็นพืชที่มีวงชีวิตสั้น

· มีการถ่ายละอองเรณูภายในดอกเดียวกัน (self pollination)

สามารถควบคุมการผสมพันธ์ได้ง่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น